ทฤษฎี การ ถ่ายเท ความ ร้อน
- แหวน หลวง พ่อ รวย รุ่น เสาร์ 5
- เครื่องจักรความร้อน - วิกิพีเดีย
- ความจุความร้อน – การเรียนการสอนฟิสิกส์ ม.6
ไดอะแกรมของเครื่องจักรไอน้ำวัตต์ ในสาขา วิศวกรรมศาสตร์ และ อุณหพลศาสตร์, เครื่องจักรความร้อน (Heat Engine) เป็นเครื่องจักรที่ใช้เปลี่ยน พลังงานความร้อน ไปสู่ งานทางกลศาสตร์ โดยอาศัยความแตกต่างทาง อุณหภูมิ ของแหล่งกำเนิดอุณหภูมิสูง (heat source) และแหล่งกำเนิดอุณหภูมิต่ำ (heat sink). ความร้อน จะถูกถ่ายเทจากแหล่งกำเนิดอุณหภูมิสูงไปต่ำ และความร้อนบางส่วนจะถูกเปลี่ยนไปเป็น งาน ในกระบวนการนี้. ในอดีต เครื่องจักรความร้อนเป็นที่นิยมใช้ในงานต่าง ๆ เป็นอย่างมาก ทั้งนี้เพราะพลังงานความร้อน เป็นพลังงานที่สร้างได้ง่ายมาก และเราสามารถควบคุมมันได้ง่ายเนื่องจากความร้อนจะมุ่งหน้าจากแหล่งอุณหภูมิสูงไปยังแหล่งอุณหภูมิต่ำเสมอ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ กฎข้อที่สองของอุณหพลศาสตร์). ประวัติและความสำคัญของเครื่องจักรความร้อน [ แก้] ใน ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม มนุษย์เราได้ผลิด เครื่องจักร และ เครื่องยนต์ เพื่อใช้งานแทน สัตว์ เช่น ม้า (สังเกตได้จากการที่มีหน่วยพลังงานเป็น แรงม้า เพื่อใช้เปรียบเทียบกับม้านั่นเอง). เครื่องจักรไอน้ำ ที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นได้แก่ เครื่องจักรนิวโคเมน และ เครื่องจักรวัตต์ ซึ่งประสบความสำเร็จใน อุตสาหกรรม เป็นอย่างมาก.
แหวน หลวง พ่อ รวย รุ่น เสาร์ 5
อย่างไรก็ตามในสมัยนั้น ความรู้ความเข้าใจในทฤษฎีของเครื่องจักรความร้อนมีน้อยมากและไม่สามารถอธิบายประสิทธิภาพของเครื่องจักรความร้อนได้ดี เช่น เราไม่ทราบว่าอัตราส่วนพลังงานความร้อนที่เรามอบให้เครื่องจักรนั้นถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นงานทางกลศาสตร์กี่เปอร์เซ็นต์. ในปี ค. ศ. 1824 ซาดี การ์โนต์ วิศวกร ชาว ฝรั่งเศส ได้ตีพิมพ์ผลงาน Reflections on the Motive Power of Fire [1] ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เมื่อกำหนดแหล่งกำเนิดอุณหภูมิสูงและต่ำคู่ใด ๆ แล้ว เครื่องจักรความร้อนการ์โนต์ เป็นเครื่องจักรที่ให้งานทางกลศาสตร์มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ (ต่อมาเราทราบว่า เครื่องจักรแบบผันกลับได้ ทุกชนิดมีประสิทธิภาพสูงสุดเท่า เครื่องจักรการ์โนต์). งานของเครื่องจักรการ์โนต์ทำให้เราตระหนักถึงขอบเขตที่ดีที่สุดของเครื่องจักรความร้อนเท่าที่เราทำได้ และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาทฤษฎีทาง อุณหพลศาสตร์ อย่างจริงจังอีกด้วย ซึ่งทำให้ต่อมา ลอร์ด เคลวิน และ รูดอร์ฟ เคลาซิอุส ค้นพบ กฎข้อที่สองของอุณหพลศาสตร์. นักฟิสิกส์ หลายท่านถือว่าการ์โนต์เป็นหนึ่งในผู้ค้นพบ กฎข้อที่สองของอุณหพลศาสตร์ ตัวอย่างของเครื่องจักรความร้อนที่พบได้ในปัจจุบันมีมากมาย เช่น เครื่องจักรไอน้ำ (ดังเช่น รถไฟยุคโบราณ), เครื่องยนต์ดีเซล หรือ เครื่องยนต์แก๊สโซลีน เป็นต้น.
เครื่องจักรความร้อน - วิกิพีเดีย
m = 200 g t = (39-2) °C c = 1 cal/ g / °C ออออออออออ จาก ΔQ = mcΔT อออออออออออออ ΔQ = 200x1x37 อออออออออออออ ΔQ = 7400 cal ดังนั้น ปริมาณความร้อนที่ต้องดึงออก เท่ากับ 7400 แคลอรี ที่มาข้อมูล:
- วัด ป่า มะม่วง จ สิงห์บุรี
- มะเขือเทศผัดไข่แบบจีน
- การลำดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
- เครื่องจักรความร้อน - วิกิพีเดีย
- น้ํา มัน ดอก คํา ฝอย ฟิก เกอร์
- เค้ก กล้วย หอม นึ่ง น้ํา มัน พืช
- ความจุความร้อน – การเรียนการสอนฟิสิกส์ ม.6
- Shimano sedona fi 2017 ราคา 2
- รีวิว!! เวฟ100เทา แต่งสวย สะอาดๆ | รถนอกกระแส | เปลี่ยนไปมาก (HD) วัยรุ่นทุนน้อย!! - YouTube
- Seal Team Season 1 พาก ไทย
ความจุความร้อน – การเรียนการสอนฟิสิกส์ ม.6
K หรือ cal/g°C ตารางแสดงค่าความจุความร้อนจำเพาะของสารบางชนิด อออออ จากตารางจะเห็นได้ว่าน้ำเป็นสารที่มีค่าความจุความร้อนจำเพาะสูง (4186 J/kg. K) การที่จะทำให้น้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 °C (หรือ 1 K) นั้น ต้องให้พลังงานความร้อนเข้าไปในปริมาณมาก ดังนั้น เมื่อนำน้ำใส่แก้วกระดาษและนำไปตั้งไฟ ความร้อนจากไฟจึงถูกถ่ายเทไปยังน้ำทำให้แก้วกระดาษไม่ไหม้ไฟ แต่หากปล่อยให้น้ำเดือดและระเหยไปจนหมด จะเกิดอะไรขึ้นกับแก้วกระดาษ อันนี้ทิ้งไว้ให้ลองคิดกันต่อนะครับ อออออ คงเป็นเรื่องธรรมดามากๆนะครับ หากมีใครสักคนถามว่าจะทำอย่างไรให้น้ำเดือด??? คนตอบ: "ง่ายนิดเดียว ก็เอาไปต้มสิ" แต่หากเขาถามเพิ่มว่าแล้วจะต้องตั้งไฟนานเท่าไหร่ น้ำกานี้จึงจะเดือด??? คนตอบ: "อ๋อ…ก็ประมาณ 5-10 นาที มั้ง" ก็ตอบโดยใช้ เวิบ-ทู-เดา กันไป แต่…หากเขาถามเพิ่มอีกล่ะว่า แล้วต้องใช้ปริมาณความร้อนเท่าไหร่ล่ะ น้ำกาเดิมนั้นจึงจะเดือด??? คนตอบ: "อืม…ก็…. เอ่อ….
ในเครื่องยนต์ของ รถยนต์ สิ่งที่ทำหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิดอุณหภูมิสูงจะอยู่ในตัวเครื่องยนต์ เช่น การเผาไหม้จาก น้ำมัน และสิ่งที่เสมือนเป็นแหล่งกำเนิดอุณหภูมิต่ำก็คือสิ่งแวดล้อมภายนอกนั่นเอง. เครื่องจักรความร้อนอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงทั้งในทางทฤษฎีและปฏิบัติได้แก่ เครื่องจักรออตโต วัฎจักรอีริกสัน เครื่องจักรสเติรริง และ ตู้เย็น (ซึ่งสร้างได้จากการนำกระบวนการของเครื่องจักรความร้อนมาย้อนกลับ) เป็นต้น เครื่องจักรความร้อนและกฎของอุณหพลศาสตร์ [ แก้] การวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเครื่องจักรความร้อนของการ์โนต์เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอย่างยิ่งจุดหนึ่งของอุณหพลศาสตร์. โดยทั่วไปเครื่องจักรความร้อนจะเป็นเครื่องจักรชนิด เครื่องจักวนรอบ (cyclic device) นั่นคือเมื่อทำงานไปพักหนึ่ง สถานะของเครื่องจักรจะวนกลับเข้ามาที่สถานะเริ่มต้นใหม่ และจะวนไปมาเรื่อย ๆ. ทั้งนี้เนื่องจากจะมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในกระบวนการการทำงานของเครื่องจักรเสมอ ถ้าเราสร้างเครื่องจักรให้เป็นชนิด ไม่วนรอบ เมื่อทำงานไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดอุณหภูมิก็จะมากขึ้นเรื่อย ๆ จน ระเบิด (หรืออุณหภูมิลดลงเรื่อย ๆ จนถึง จุดเยือกแข็ง). ถ้าเรานิยามประสิทธิภาพของเครื่องจักรความร้อนเป็น อัตราส่วนของงานที่ได้รับต่อพลังงานที่ให้เครื่องจักร, โดยพลังงานที่ให้คือพลังงานความร้อนขาเข้า และพลังงานที่ได้รับ ดังรูปด้านข้าง เราสามารถเขียนในรูปสมการได้ว่า เนื่องจากจะมีความร้อนส่วนหนึ่ง ออกไปยังแหล่งกำเนิดอุณหภูมิระดับต่ำเสมอ และเนื่องจากเครื่องจักรความร้อนเป็นชนิดเครื่องจักรวนรอบ, ในแต่ละรอบการเปลี่ยนแปลง พลังงานภายใน ของเครื่องจักรจึงเท่ากับศูนย์.